ตระกูลภาษาอัลไต
ตระกูลภาษาอัลไต (อังกฤษ: Altaic languages; บางครั้งเรียกว่า ทรานส์ยูเรเชีย (Transeurasian)) เป็นตระกูลภาษาในสมมติฐานที่มีข้อโต้แย้ง[1] ซึ่งเสนอว่า กลุ่มภาษาเตอร์กิก กลุ่มภาษามองโกล และกลุ่มภาษาตุงกูซิกมีภาษาบรรพบุรุษร่วมกัน บางครั้งสมมติฐานตระกูลภาษาอัลไตยังรวมกลุ่มภาษาญี่ปุ่นและกลุ่มภาษาเกาหลีไว้ด้วย[2]: 73 ผู้พูดภาษาเหล่านี้ในปัจจุบันกระจายทั่วเอเชียบริเวณเหนือเส้นขนานที่ 35 องศาเหนือ และในยุโรปตะวันออกบางส่วน ในขอบเขตลองจิจูดจากตุรกีถึงญี่ปุ่น[3] ภาษาตระกูลนี้ได้รับชื่อจากเทือกเขาอัลไตในเอเชียกลางตระกูลภาษาอัลไตเป็นข้อเสนอที่ยังไม่ได้รับการยอมรับเป็นการทั่วไปในสาขาภาษาศาสตร์เชิงประวัติ แม้ว่าจะมีส่วนน้อยยอมรับก็ตาม[2][4][5] การวิจัยเกี่ยวกับต้นกำเนิดภาษาศาสตร์ทั่วไปโดยประมาณ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการศึกษาเปรียบเทียบคติชาวบ้านและเทพปกรณัมต่าง ๆ ในกลุ่มชนเตอร์กิก, ชาวมองโกลดั้งเดิม และชาวตุงกุส[6]
ตระกูลภาษาอัลไต | |
---|---|
(โต้แย้ง) | |
ภูมิภาค: | เอเชียเหนือและกลาง |
การจําแนก ทางภาษาศาสตร์: | ข้อเสนอตระกูลภาษาหลักของนักภาษาศาสตร์บางกลุ่ม |
ภาษาดั้งเดิม: | ภาษาอัลไตดั้งเดิม |
กลุ่มย่อย: | |
ISO 639-2 / 5: | tut |
กลอตโตลอก: | None |
(บางครั้ง) (บางครั้ง) (แทบไม่รวม) |
มีการเสนอตระกูลภาษาอัลไตครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และเคยเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจนกระทั่งคริสต์ทศวรรษ 1960 และยังคงพบในสารานุกรมและหนังสือคู่มือหลายเล่ม[2]
ลักษณะของภาษาในตระกูล
ภาษาต่าง ๆ ในตระกูลภาษานี้มีลักษณะที่ร่วมกันอยู่หลายประการด้วยกัน ดังนี้
- การเรียงลำดับคำแบบ ประธาน-กรรม-กริยา (SOV)
- ไม่ระบุเพศ พจน์ของคำ
- มีการใช้คำปรบท (Postposition) ซึ่งทำหน้าที่แบบเดียวกันกับคำบุพบท เพียงแต่ว่าจะปรากฏอยู่ด้านหลังของคำที่จะกล่าวถึง
- ไม่มีคำประพันธสรรพนาม (relative pronouns)
- ไม่ปรากฏคำกิริยา “มี” แต่ใช้การเติมปัจจัย (Suffix) หรือสัมพันธการก (Genitive case) ท้ายคำเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแทน
- เป็นภาษารูปคำติดต่อ (Agglutinative language) กล่าวคือ มีการเติมหน่วยคำอิสระหรืออนุภาค (Particle) ท้ายคำเพื่อแสดงหน้าที่ของคำในระบบวากยสัมพันธ์
- มีความสอดคล้องกลมกลืนของสระ (Vowel harmony) กล่าวคือ ระบบสระในคำหนึ่งคำจะต้องเป็นสระประเภทเดียวกัน
- ไม่มีการเติมอุปสรรคแต่ใช้ปัจจัยท้ายคำเพื่อบอกหน้าที่คำในประโยค
- ระบบเสียงพยัญชนะไม่สลับซับซ้อนรวมทั้งเป็นคำแบบพยางค์ปิดเป็นส่วนใหญ่
สาขาย่อย
ตระกูลภาษาอัลตาอิกนี้สามารถแบ่งออกเป็นสาขาต่าง ๆ ได้ดังนี้
สาขากลุ่มภาษาเตอร์กิก (Turkic subfamily)
มีผู้พูดเป็นภาษาแม่ราว 180 ล้านคน รวมผู้ที่พูดเป็นภาษาที่สองราว 200 ล้านคน ใช้พูดในประเทศตุรกี เอเชียกลาง สาธารณรัฐยาคุต สาธารณรัฐบัชคอร์โตสถาน สาธารณรัฐตาตาร์สถาน ในประเทศรัสเซีย และ มณฑลซินเจียงอุยกูร์ในประเทศจีน กลุ่มภาษาเตอร์กิกส่วนใหญ่เป็นผู้พูดภาษาตุรกี ซึ่งคิดเป็น 40% ของผู้พูดกลุ่มภาษานี้ทั้งหมด สาขากลุ่มภาษาเตอร์กิกแบ่งออกได้เป็น
- กลุ่มภาษาโอคูร์ (Oghur Turkic) ได้แก่ ภาษาบุลการ์โบราณ ภาษาคาซาร ภาษาอาวาร์(พันโนเนี่ยนอาวาร์) ปัจจุบันสูญหายหมดเหลือแต่ ภาษาชูวาช
- กลุ่มภาษาเตอร์กิกใต้หรือโอกุซ (Southern Turkic or Oghuz) ได้แก่ ภาษาตุรกี ภาษาอาเซอร์ไบจาน ภาษาเติร์กเมน
- กลุ่มภาษาเตอร์กิกเหนือ(ไซบีเรี่ยน เตอร์กิก) (Northern Turkic) ได้แก่ ภาษายาคุท ภาษาดอลกัน ภาษาอูเรียงกัต ภาษาอัลไต
- กลุ่มภาษาเตอร์กิกตะวันออกหรือชากาไตย(คาร์ลุค) (Eastern Turkic or Chagatai) ได้แก่ ภาษาอุยกูร์ ภาษาอุซเบก
- กลุ่มภาษาเตอร์กิกตะวันตกหรือคิปชัก (Werstern Turkic or Kipchak) ได้แก่ ภาษาตาตาร์ ภาษาคาซัค ภาษาคีร์กีซ ภาษาการากัลปัก ภาษาบัชกอร์ต
สาขากลุ่มภาษามองโกล (Mongolic subfamily)
มีผู้พูดประมาณ 10 ล้านคน ใช้มากในประเทศมองโกเลีย เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ดินแดนจุงกาเรียในประเทศจีน สาธารณรัฐคัลมืยคียาและสาธารณรัฐบูรยาเทียในประเทศรัสเซีย แบ่งออกได้ดังนี้
- กลุ่มภาษามองโกลตะวันตกหรือออยรัท (Western Mongol or Oirat) ได้แก่ ภาษาออยรัท ภาษาคาลมิก ภาษาตอร์กุต
- กลุ่มภาษามองโกลตะวันออกหรือคาลฆา (Eastern Mongol or Khalkha) ได้แก่ ภาษาคาลฆา ภาษาเบอร์ยัท ภาษาคอร์ชิน ภาษาออร์ดอส ภาษาทูเมต ภาษาฌาฮาร์
- กลุ่มภาษาต้าเอ้อร์ (Daur) ได้แก่ ภาษาต้าเอ้อร์
สาขากลุ่มภาษาตุงกูซิก (Tungusic subfamily)
มีผู้พูดประมาณ 80,000 คน ใช้มากในไซบีเรียตะวันออก และแถบแมนจูเรียในประเทศจีน สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- กลุ่มภาษาตุงกุสเหนือ (Northern Tungus) ได้แก่ ภาษาอีเวนกิ ภาษาอีเวน ภาษาเนกิดัล
- กลุ่มภาษาตุงกุสใต้ (Southern Tungus) ได้แก่ ภาษาแมนจู ภาษาพูยอ ภาษาซีเปอ ภาษานานาจ ภาษาโอโรเชิน ภาษาอูดิเฮ
สาขาภาษาเกาหลี-ญี่ปุ่น (Korean-Japonic subfamily)
มีผู้พูดประมาณ 180 ล้านคนในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่นและหมู่เกาะโอกินาวา แบ่งออกได้ดังนี้
- กลุ่มภาษาเกาหลี (Korean) ได้แก่ ภาษาเกาหลี
- กลุ่มภาษาญี่ปุ่น-รีวกีว (Japanese-Ryukyuan) ได้แก่ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาริวกิว
อย่างไรก็ดีนักวิชาการบางท่านอาจจัดกลุ่มภาษาเกาหลี-ญี่ปุ่นเป็นภาษาเอกเทศ (isolated language) เนื่องจากลักษณะบางอย่างในภาษาไม่สอดคล้องกับตระกูลภาษาอัลตาอิก เช่น ภาษาเกาหลีในปัจจุบันไม่เคร่งครัดกฎความสอดคล้องกลมกลืนของสระ ภาษาญี่ปุ่นเป็นคำพยางค์คู่และพยางค์เปิด ไม่ปรากฏลักษณะของความสอดคล้องกลมกลืนของสระซึ่งเป็นลักษณะของตระกูลภาษาออสโตรนีเซีย
ดังนั้นนักวิชาการบางคนจึงกล่าวว่า ภาษาญี่ปุ่นอาจมีตระกูลภาษาออสโตรนีเซียเป็นภาษาพื้นเดิม (substratum) ก่อนที่จะได้รับอิทธิพลจากตระกูลภาษาอัลตาอิก สาขาตุงกุส (superstratum) นอกจากนี้ภาษาทั้งสองยังได้รับอิทธิพลคำศัพท์มาจากภาษาจีนอย่างมากมาย รวมทั้งมีระดับภาษาที่ต่างกันเพื่อแสดงความสุภาพและสถานะของบุคคลซึ่งไม่ใช่ลักษณะของภาษาตระกูลนี้ แม้ว่าลักษณะของวากยสัมพันธ์จะเป็นแบบตระกูลภาษาอัลตาอิก และอาจมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสาขาภาษาตุงกุสมาก่อน
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ทางเชื้อสาย (Genetic relation) ของตระกูลภาษานี้ยังไม่อาจได้รับการยืนยันเนื่องจากการขาดความคล้ายคลึงทางคำศัพท์และหน่วยเสียงระหว่างกลุ่มภาษาที่ไกลกัน จึงไม่แน่ชัดว่าเป็นภาษาที่สืบทอดมาจากภาษาอัลตาอิกดั้งเดิม (Proto-Altaic) เดียวกัน