ปืนเล็กยาวโมซิน-นากองท์
ปืนเล็กยาวระบบลูกเลื่อน บรรจุกระสุน 5 นัด สัญชาติรัสเซีย
ปืนไรเฟิล 3 ไลน์ เอ็ม 1891 (อังกฤษ: 3-line rifle M1891, รัสเซีย: трёхлинейная винтовка образца 1891 года, tryokhlineynaya vintovka obraztsa 1891 goda) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โมซิน-นากองท์ (อังกฤษ: Mosin–Nagant, รัสเซีย: винтовка Мосина) เป็นปืนไรเฟิลที่ถูกพัฒนาโดยกองทัพจักรวรรดิรัสเซียในปี 1882-1891 และใช้งานโดยกองทัพจักรวรรดิรัสเซียและสหภาพโซเวียตและประเทศอื่น ๆ ถูกผลิตมากกว่า 37 ล้านกระบอกนับตั้งแต่เริ่มผลิตในปี 1891 และถูกนำมาใช้ในความขัดแย้งต่าง ๆ ทั่วโลกจนถึงสมัยปัจจุบัน
โมซิน-นากองท์ | |
---|---|
ชนิด | ปืนไรเฟิลและปืนไรเฟิลซุ่มยิง |
แหล่งกำเนิด | จักรวรรดิรัสเซีย |
บทบาท | |
ประจำการ | 1891–1945 (สหภาพโซเวียต) 1891-ปัจจุบัน (ประเทศอื่นๆ) |
ผู้ใช้งาน | ดูใน ประจำการ |
สงคราม | ปฏิวัติฟิลิปปินส์ สงครามอิตาลี-เอธิโอเปียครั้งที่1 กบฏนักมวย สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น สงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามกลางเมืองฟินแลนด์ การปฏิวัติรัสเซีย สงครามกลางเมืองรัสเซีย สงครามโปแลนด์–โซเวียต สงครามประกาศอิสรภาพตุรกี สงครามกลางเมืองจีน สงครามกลางเมืองสเปน สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ข้อพิพาทชายแดนโซเวียต–ญี่ปุ่น สงครามฤดูหนาว สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง สงครามเกาหลี สงครามกลางเมืองเยเมนเหนือ สงครามจีน-อินเดีย สงครามกลางเมืองลาว สงครามเวียดนาม สงครามกลางเมืองกัมพูชา สงครามกัมพูชา–เวียดนาม สมรภูมิบ้านร่มเกล้า สงครามโซเวียตในอัฟกานิสถาน สงครามยูโกสลาเวีย สงครามเชชเนียครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง สงครามในอัฟกานิสถาน (พ.ศ. 2544–2557) สงครามอิรัก สงครามเซาท์ออสเซเตีย พ.ศ. 2551 สงครามกลางเมืองซีเรีย ความขัดแย้งนิยมรัสเซียในประเทศยูเครน พ.ศ. 2557 สงครามในดอนบัสส์ วิกฤตการณ์ไครเมีย พ.ศ. 2557 |
ประวัติการผลิต | |
ผู้ออกแบบ | Captain Sergei Mosin, Léon Nagant.[1] |
ช่วงการออกแบบ | 1891 |
ช่วงการผลิต | 1891–1965 |
จำนวนที่ผลิต | ~37,000,000 กระบอก (รัสเซีย/สหภาพโซเวียต) [ต้องการอ้างอิง] |
แบบอื่น | see รูปแบบอื่น |
ข้อมูลจำเพาะ | |
มวล | 4 kg (8.8 lb) (M91/30) 3.4 kg (7.5 lb) (M38) 4.1 kg (9.0 lb) (M44) |
ความยาว | 1,232 mm (48.5 in) (M91/30) 1,013 mm (39.9 in) (carbines) |
ความยาวลำกล้อง | 730 mm (29 in) (M91/30) 514 mm (20.2 in) (carbines) |
กระสุน | 7.62×54mmR 7.62×53mmR (เฉพาะฟินแลนด์) 7.92×57mm Mauser (โปแลนด์กับนาซีเยอรมันยึดครอง) 8×50mmR Mannlicher (ออสเตรียยึดครอง) |
การทำงาน | ลูกเลื่อน |
อัตราการยิง | Variable |
ความเร็วปากกระบอก | Light ball, ~ 865 m/s (2,838 ft/s) rifle ~ 800 m/s (2,625 ft/s) carbine. |
ระยะหวังผล | 500 m (550 yards), 800+ m (875+ yards with optics) |
ศูนย์เล็ง | Rear: ladder, graduated from 100 m to 2,000 m (M91/30) and from 100 m to 1,000 m (M38 and M44) ; Front: hooded fixed post (drift adjustable) PU 3.5 and PEM scope also mounted |
รูปแบบอื่น
รัสเซีย / สหภาพโซเวียต
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม91 1891-1930
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม91 "ดรากูน"1930-1932
- Cossack Rifle
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม07 คาร์ไบน์ 1917-1945
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม91/301930-1945
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม91/30 พียู สไนเปอร์1930-1945
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม38 คาร์ไบน์1938-1945
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม44 คาร์ไบน์1944-1959
- โมซิน-นากองท์ เอ็ม59 คาร์ไบน์1959-ปัจจุบัน
- Obrez ดัดแปลงเป็นปืนพกโดยให้กระบอกสั้นลงมา แต่ไม่นานก็ถูกยกเลิกไป
- OTs-48/OTs-48K 2000-ปัจจุบัน
เอสโตเนีย
- M1933
- M1938
- KL300
- M1935
ฟินแลนด์
- M/91
- M/91rv
- M/24
- M/27
- M/27rv
- M/28
- M/28-30
- M/91-35
- M/39
- M/30
- M/56
- M/28-57
- M/28-76
- 7.62 Tkiv 85
ประจำการ
- อัฟกานิสถาน
- แอลจีเรีย[2]
- อันดอร์รา[ต้องการอ้างอิง]
- แองโกลา:[3]
- แอนทีกาและบาร์บิวดา[ต้องการอ้างอิง]
- อาร์มีเนีย
- ออสเตรเลีย[4]
- บาห์เรน[ต้องการอ้างอิง]
- บังกลาเทศ
- บาร์เบโดส[2]
- เบลารุส[5]
- เบลเยียม[6]
- เบนิน[7]
- เบอร์มิวดา[8]
- โบลิเวีย[9]
- บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา[10]
- บอตสวานา[11]
- บราซิล[12]
- บรูไน
- บัลแกเรีย:[13]ยังคงอยู่ในการใช้งานโดยที่ 101 กองพันอัลไพน์
- บูร์กินาฟาโซ[14]
- บุรุนดี
- สาธารณรัฐจีน:สนับสนุนโดยสหภาพโซเวียตในช่วง สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง.
- จีน: ใช้โดยกองทัพปลดปล่อยประชาชนในช่วงสงครามกลางเมืองจีนและกองทัพอาสาสมัครในสงครามเกาหลี[15]
- กัมพูชา[16]
- แคเมอรูน
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
- กาบูเวร์ดี[17]
- สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- ชาด[10]
- ชิลี[18]
- โคลอมเบีย[19]
- คอโมโรส[20]
- โกตดิวัวร์[10]
- โครเอเชีย[14]
- คิวบา[3]
- ไซปรัส
- เดนมาร์ก[21]
- จิบูตี[14]
- สาธารณรัฐโดมินิกัน[5]
- ติมอร์-เลสเต[22]
- อียิปต์[23][24]
- เอริเทรีย[18]
- เอสโตเนีย[25]
- ฟีจี
- ฟินแลนด์[15][26]
- ฝรั่งเศส[27]
- กาบอง[14]
- จอร์เจีย
- กานา[28]
- กรีซ[11]
- กรีเนดา[29]
- กัวเตมาลา[30]
- กินี[31]
- กินี-บิสเซา[12]
- กายอานา[32]
- เฮติ
- ฮ่องกง[7]
- ฮังการี[15]
- ไอซ์แลนด์[33]
- อินเดีย[30]
- อินโดนีเซีย
- อิหร่าน[34]
- อิรัก
- ไอร์แลนด์[35]
- จอร์แดน[36]
- คาซัคสถาน
- เคนยา[ต้องการอ้างอิง]
- คอซอวอ[18]
- ลาว (ที่ได้รับจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนามเหนือและกองกำลังโซเวียต)
- ลัตเวีย[23]
- เลโซโท
- ไลบีเรีย[12]
- ลิเบีย[37]
- มาซิโดเนียเหนือ[3]
- มาดากัสการ์
- มาเลเซีย[4]
- มาลี[5]
- มอลตา[38]
- มอริเตเนีย[14]
- มอริเชียส[9]
- เม็กซิโก[39]
- โมนาโก[ต้องการอ้างอิง]
- มองโกเลีย
- โมร็อกโก[34]
- โมซัมบิก[5]
- พม่า
- นามิเบีย
- เนปาล
- นิวซีแลนด์[40]
- นิการากัว[41]
- ไนจีเรีย[42]
- เกาหลีเหนือ[43]
- Novorossiya
- โอมาน
- ปากีสถาน[14]
- ปานามา
- ปาปัวนิวกินี[44]
- ปารากวัย[ต้องการอ้างอิง]
- เปรู
- ฟิลิปปินส์ (รุ่นของสหรัฐฯ)
- โปแลนด์[15] ใช้เพียงสำหรับพิธีการทางทหาร
- กาตาร์
- สาธารณรัฐคองโก
- โรมาเนีย[15]
- รัสเซีย
- รวันดา[ต้องการอ้างอิง]
- ซามัว[45]
- ซานมารีโน
- เซาตูแมอีปริงซีป[32]
- ซาอุดีอาระเบีย[46]
- เซเนกัล[47]
- เซอร์เบีย[48]
- เซเชลส์
- เซียร์ราลีโอน[21]
- สิงคโปร์
- สโลวาเกีย[49]
- โซมาเลีย[50]
- แอฟริกาใต้[51]
- เกาหลีใต้
- ซูดานใต้
- สเปน[52]
- ศรีลังกา[5]
- ซูดาน
- ซูรินาม[53]
- ซีเรีย[46]
- เอสวาตินี
- สวีเดน[54]
- ทาจิกิสถาน
- ไต้หวัน[55]
- ไทย (ได้มาจากจากสงครามเวียดนาม กองกำลังลาวและได้รับโดยกองกำลังสหรัฐฯ ใช้โดยทหารพรานพลซุ่มยิงและกองกำลังไทยม้งใน การก่อการกำเริบในลาว)
- โตโก
- ตูนิเซีย
- เติร์กเมนิสถาน
- ยูกันดา
- ยูเครน (ใช้รักษาความปลอดภัยของกระทรวงกิจการภายใน)[56]
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- อุซเบกิสถาน
- เวเนซุเอลา
- เวียดนาม[3]
- เยเมน
- แซมเบีย
- ซิมบับเว
ประจำการในอดีต
- แอลเบเนีย[15]
- ออสเตรีย-ฮังการี[13]
- ออสเตรีย
- อาเซอร์ไบจาน
- เชโกสโลวาเกีย[15]
- เยอรมนีตะวันออก[15]
- อิสราเอล: ใช้โดย Haganah
- ญี่ปุ่น: ยึดมาได้ในช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น[26]
- อิตาลี[57]
- คีร์กีซสถาน
- ลิทัวเนีย
- ราชอาณาจักรมอนเตเนโกร[58]
- ไรช์เยอรมัน (ยึดมาได้จากกองทัพโซเวียต)
- ราชวงศ์ชิง[59]
- โรมาเนีย[15]
- รัสเซีย[15]
- สาธารณรัฐโปแลนด์ที่ 2 ยึดมาได้จากกองทัพโซเวียต
- ราชอาณาจักรเซอร์เบีย[58]
- สาธารณรัฐสเปนที่ 2[60]
- เวียดนามใต้[61]
- สหภาพโซเวียต[15]
- แทนซาเนีย
- ตุรกี: ใช้ระหว่าง 1914-1940s และสงครามประกาศอิสรภาพตุรกี[26][62]
- บริเตนใหญ่[26]
- สหรัฐ (U.S. Rifle, 7.62 mm, Model of 1916)[26][63]
- ยูโกสลาเวีย[23]
- แม่แบบ:ซาอีร์
ในที่อื่น ๆ
- อัลกออิดะฮ์
- กองทัพสาธารณรัฐไอริช[26]
- รัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์
- คอซอวอ[3]
- เซนเดโรลูมีโนโซ[3]
- เวียดกง[3]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- Bowser, Doug, Rifles of the White Death.
- Kokalis, Peter G. (2003). "White Death". The Shotgun News Treasury Issue Volume 4. Primedia Publishing.
- Lapin, Terence W. (2003). The Mosin–Nagant Rifle, 3rd ed. Tustin, California: North Cape Publications. ISBN 1-882391-21-7.
- Lapin, Terence W. (2013). The Mosin–Nagant Rifle, 6th ed. Tustin, California: North Cape Publications. ISBN 1-88239121-7.
- Lewis, Chuck (October 2005), Military Heritage, vol. 7, pp. 26–27, 70–71, ISSN 1524-8666.
- Menning, Bruce W. (1992), Bayonets before Bullets: The Imperial Russian Army, 1861–1914, Indiana University Press, ISBN 0-253-33745-3.
- Palokangas, Markku, Sotilaskäsiaseet Suomessa 1918–1988 [Military Pistols in Finland] (ภาษาฟินแลนด์).
- Current Mosin–Nagant rifles being produced, Molot, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-24, สืบค้นเมื่อ 2016-09-13.