ลุฟท์ฮันซ่า

สายการบินแห่งชาติของประเทศเยอรมนี

ลุฟท์ฮันซ่า (เยอรมัน: Lufthansa) หรือชื่อเต็ม บมจ.ด็อยท์เชอลุฟท์ฮันซ่า (เยอรมัน: Deutsche Lufthansa AG) เป็นสายการบินประจำชาติและสายการบินใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี และถือเป็นสายการบินใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรปในแง่จำนวนผู้โดยสาร ชื่อลุฟท์ฮันซ่ามาจากการประสมระหว่างคำว่า ลุฟท์ ที่แปลว่า "อากาศ" กับคำว่า ฮันซา ที่หมายถึง "สันนิบาตการค้า" บริษัทลุฟท์ฮันซ่าเป็นหนึ่งในห้าสายการบินผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์อัลไลแอนซ์ในปีค.ศ. 1997[3] ซึ่งเป็นเครือพันธมิตรสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ลุฟท์ฮันซ่า
IATAICAOรหัสเรียก
LHDLHLUFTHANSA
ก่อตั้ง6 มกราคม ค.ศ. 1953 (71 ปี)
เริ่มดำเนินงาน1 เมษายน ค.ศ. 1955 (69 ปี)
ท่าหลักท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต
ท่าอากาศยานมิวนิก[note 1]
สะสมไมล์Miles & More
พันธมิตรการบินสตาร์อัลไลแอนซ์
บริษัทลูก
  • แอลเอสจีสกายเชฟ
  • ลุฟท์ฮันซ่าคอนเซาท์ติ้ง
  • ลุฟท์ฮันซ่าไฟลท์เทรนนิ่ง
  • ลุฟท์ฮันซ่าอินดัสทรีโซลูชั้น
  • ลุฟท์ฮันซ่าซิสเต็ม
  • ลุฟท์ฮันซ่าเทคนิค
  • โกลบอลโหลดคอนโทรล
ขนาดฝูงบิน295
จุดหมาย229
บริษัทแม่ลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ป
การซื้อขาย
ISINDE0008232125
สำนักงานใหญ่เยอรมนี โคโลญ, ประเทศเยอรมนี
บุคลากรหลักคาร์สเตน สปอร์ (ประธานและซีอีโอ)
รายได้เพิ่มขึ้น 32.8 พันล้านยูโร
รายได้จากการดำเนินงาน
เพิ่มขึ้น 1.5 พันล้านยูโร (2022)
รายได้สุทธิ
เพิ่มขึ้น 791 พันล้านยูโร (2022)
สินทรัพย์เพิ่มขึ้น 43.335 พันล้านยูโร (2022)
ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 8.5 พันล้านยูโร (2022)
พนักงาน
109,509 คน (2022) [2]
เว็บไซต์www.lufthansa.com

นอกจากลุฟท์ฮันซ่าจะดำเนินกิจการสายการบินภายใต้แบรนด์ของตัวเองแล้ว ลุฟท์ฮันซ่ายังมีสายการบินในเครือได้แก่: ออสเตรียนแอร์ไลน์, สวิสอินเตอร์แนชนัลแอร์ไลน์, บรัสเซลแอร์ไลน์ และยูโรวิงส์ นอกจากนี้ บริษัทลุฟท์ฮันซ่ายังมีบริษัทลูกในเครือ ได้แก่ ลุฟท์ฮันซ่าเทคนิค (ฝ่ายซ่อม) และ แอลเอสจีสกายเชฟ (ฝ่ายครัวการบิน) หากรวมจำนวนเครื่องบินของสายการบินทั้งหมดในเครือลุฟท์ฮันซ่าแล้ว จะมีเครื่องบินประจำการกว่า 700 ลำ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มสายการบินที่มีขนาดฝูงบินใหญ่ที่สุดในโลก[4]

ลุฟท์ฮันซ่ามีสำนักงานใหญ่ของเครือบริษัทในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี โดยมีฐานการบินหลักในท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต[5] และมีฐานการบินรองในท่าอากาศยานมิวนิก

ประวัติ

คริสต์ทศวรรษ 1950: ช่วงแรก

คอนแวร์ 340 ความจุ 52 ที่นั่ง เป็นเครื่องบินลำแรกของลุฟท์ฮันซ่า ส่งมอบเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1954

บมจ.ด็อยท์เชอลุฟท์ฮันซ่าก่อตั้งในกรุงเบอร์ลินเมื่อค.ศ. 1926[6] และกลายเป็นสายการบินประจำชาติเยอรมันนับแต่นั้น สายการบินแห่งนี้สิ้นสภาพไปโดยปริยายพร้อมกับความพ่ายแพ้ของเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อค.ศ. 1945[7] แต่ในเวลาต่อมา รัฐบาลเยอรมนีตะวันตกมีความพยายามฟื้นฟูสายการบินแห่งชาติขึ้นมาใหม่ มีการก่อตั้งบริษัทมหาชนที่ชื่อว่า ลุฟท์ทาค (Luftag)[8] ในนครโคโลญเมื่อปีค.ศ. 1953 พนักงานและผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่เคยทำงานให้กับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าที่ล้มไป[9][10] ในปีนั้น ลุฟท์ทาคสั่งซื้อเครื่องบินคอนแวร์ 340 และ ล็อกฮีด แอล-1049 อย่างละสี่เครื่องจากสหรัฐ และกำหนดท่าอากาศยานฮัมบวร์คเป็นฐานปฏิบัติการใหญ่และฐานซ่อมบำรุง[8] ทั้งนี้เนื่องจาก กรุงเบอร์ลินในขณะนั้นมีสถานะพิเศษระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกและสหภาพโซเวียต จึงไม่มีสายการบินใดได้รับอนุญาตให้บินเหนือน่านฟ้ากรุงเบอร์ลิน

สิงหาคม ค.ศ. 1954 ลุฟท์ทาคซื้อสิทธิ์ในชื่อและโลโก้จากผู้พิทักษ์ทรัพย์ของอดีตบมจ.ด็อยท์เชอลุฟท์ฮันซ่าด้วยเงินจำนวน 30,000 มาร์ค และกลายเป็นสายการบินประจำชาติเยอรมันนับแต่นั้น ลุฟท์ฮันซ่าเริ่มให้บริการเดินอากาศอีกครั้งในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1955 ในปีแรกให้บริการเที่ยวบินในประเทศระหว่างฮัมบวร์ค, ดึสเซิลดอร์ฟ, แฟรงก์เฟิร์ต, โคโลญ และมิวนิก เที่ยวบินระหว่างประเทศสู่ลอนดอน, ปารีส, มาดริด และนครนิวยอร์ก[11][12]

คริสต์ทศวรรษ 1960: การเข้ามาของอากาศยานไอพ่น

โบอิง 707 ในปีค.ศ. 1984 โบอิง 707 เป็นเครื่องบินไอพ่นลำแรกของลุฟท์ฮันซ่า

ในปีค.ศ. 1958 ลุฟต์ฮันซ่าสั่งซื้อโบอิง 707 จำนวน 4 ลำ และเริ่มบินเครื่องบินจากแฟรงก์เฟิร์ตไปยังนครนิวยอร์กในเดือนมีนาคม ค.ศ 1960 ต่อมาได้ซื้อโบอิง 720B เพื่อทดแทนฝูงบินโบอิง 707 ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1961 ลุฟท์ฮันซ่าได้ขยายเส้นทางตะวันออกถึงกรุงเทพฯ ฮ่องกง โตเกียว เลกอส และโจฮันเนสเบิร์ก

ลุฟต์ฮันซ่าเปิดตัวเครื่องบินโบอิง 727 ในปี 1964 และเดือนพฤษภาคมเริ่มเส้นทางขั้วโลกจากแฟรงก์เฟิร์ตไปยังโตเกียวผ่านแองเคอเรจ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 บริษัทได้สั่งซื้อโบอิ้ง 737 จำนวน 21 ลำที่เข้าประจำการในปี พ.ศ. 2511 ลุฟท์ฮันซาเป็นลูกค้ารายแรกของโบอิ้ง 737 และเป็นหนึ่งในสี่ของผู้ให้บริการโบอิง 737-100 (ผู้ให้ยริการรายอื่น ได้แก่นาซา มาเลเซีย-สิงคโปร์แอร์ไลน์ และอาเบียงกา) ลุฟท์ฮันซ่าเป็นลูกค้าต่างชาติรายแรกที่เปิดตัวเครื่องบินโบอิง

คริสต์ทศวรรษ 1970-1980: ลุฟท์ฮันซ่ากับอากาศยานลำตัวกว้าง

ยุคสมัยเครื่องบินลำตัวกว้างของลุฟท์ฮันซ่าเริ่มต้นด้วยการให้บริการโบอิง 747 เมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1970, ดักลาส ดีซี-10-30 ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1973, และแอร์บัส เอ300 ในปี 1976 ลุฟท์ฮันซ่าเป็นลูกค้าเปิดตัวแอร์บัส เอ310 ในปี 1979 ร่วมกับสวิสแอร์ด้วยคำสั่งซื้อจำนวน 25 ลำ

ลุฟท์ฮันซ่าเริ่มดำเนินการโครงการปรับปรุงฝูงบินในวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 1985 โดยได้เพิ่มคำสั่งซื้อแอร์บัส เอ320 สิบห้าลำ และแอร์บัส เอ300-600 เจ็ดลำ โบอิง 737-300 สิบลำ ทั้งหมดถูกส่งมอบระหว่างปี 1987 ถึง 1992 ลุฟท์ฮันซ่ายังซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321 แอร์บัส เอ340 และโบอิง 747-400

ในปี 1987 ลุฟท์ฮันซา ร่วมกับแอร์ฟรานซ์ ไอบีเรีย และสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ ก่อตั้งบริษัทอมาดีอุส ซึ่งเป็นบริษัทไอที (หรือเรียกว่า GDS) ที่พัฒนาระบบสื่อกลางการขายเที่ยวบินและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องของสายการบินต่างๆ

ลุฟท์ฮันซาออกแบบและเริ่มใช้เอกลักษณ์องค์กรใหม่ในปี 1988 โดยได้มีการปรับเปลี่ยนลวดลายอากาศยาน ห้องโดยสาร สำนักงาน และห้องรับรองในสนามบินทั้งหมด

แอร์บัส เอ300B4 ของลุฟท์ฮันซ่าในปีค.ศ. 1986 เอ300 เป็นหนึ่งในเครื่องบินลำตัวกว้างลำแรกๆ ที่ประจำการกับลุฟท์ฮันซ่า

คริสต์ทศวรรษ 1990-2000: การขยายกิจการ

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 หลังจากการรวมประเทศได้ 25 วัน เบอร์ลินกลายเป็นจุดหมายปลายทางของลุฟท์ฮันซาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 ลุฟท์ฮันซ่า, แอร์แคนาดา, สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ซิสเต็ม, การบินไทย และ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ได้ก่อตั้งสตาร์อัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นพันธมิตรสายการบินแห่งแรกของโลก

ในตอนต้นของปีค.ศ. 1995 ลุฟท์ฮันซ่าได้ทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบางอย่างโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทที่ดำเนินงานอิสระของกลุ่มการบิน เช่น ลุฟท์ฮันซ่า เทคนิค ลุฟท์ฮันซ่า คาร์โก้ และลุฟท์ฮันซ่า ซิสเต็มส์[13] หลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน ในปีค.ศ. 2001 สายการบินประสบกับการสูญเสียผลกำไรจำนวนมาก[14] แต่ยังคงสามารถรักษาฝูงบินแอร์บัส เอ380 ไว้สำหรับเที่ยวบินระยะไกลจากแฟรงก์เฟิร์ตโดยเฉพาะ ฝูงบินเอ380 จะใช้สำหรับเที่ยวบินระยะไกลจากแฟรงก์เฟิร์ตเท่านั้น ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 ลุฟต์ฮันซาเปิดอาคารผู้โดยสาร 2 ที่สท่าอากาศยานมิวนิก เพื่อบรรเทาศูนย์กลางหลักที่แฟรงก์เฟิร์ตซึ่งประสบปัญหาข้อจำกัดด้านความจุ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2005 สวิสอินเตอร์แนชนัลแอร์ไลน์ถูกซื้อโดยลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ป

ลุฟท์ฮันซ่าเป็นสายการบินในยุโรปแห่งที่สองที่ให้บริการแอร์บัส เอ380 (รองจากแอร์ฟรานซ์) เอ380 ลำแรกส่งมอบเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ในขณะที่โบอิง 747-8 ลำแรกเข้าประจำการในปี 2012

คริสต์ทศวรรษ 2010: การแก้ไขสภาวะการเงินของลุฟท์ฮันซ่า

แอร์บัส เอ380 และโบอิง 747 ของลุฟท์ฮันซ่าที่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต

ลุฟท์ฮันซ่าขาดทุน 381 ล้านยูโรในไตรมาสแรกของปี 2010 และอีก 13 ล้านยูโรในปี 2011[15] เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและต้นทุนการปรับโครงสร้าง ส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้าง บริษัทได้เริ่มโอนเที่ยวบินระยะใกล้ทั้งหมดนอกศูนย์กลางในแฟรงก์เฟิร์ต มิวนิก และดึสเซลดอร์ฟ ไปยังสายการบินต้นทุนต่ำใหม่อย่างเยอรมันวิงส์[16]

เครื่องบินโบอิง 737 ลำสุดท้ายของสายการบิน (737-300) ปลดประจำการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2016 หลังจากเที่ยวบินจากมิลานไปยังแฟรงก์เฟิร์ต[17] สายการบินได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิง 787-9 จำนวน 20 ลำและเครื่องบินแอร์บัส เอ350-900 อีกจำนวน 20 ลำสำหรับการเปลี่ยนและขยายฝูงบินของบริษัทเองและในกลุ่ม

คริสต์ทศวรรษ 2020: วิกฤตโควิด-19 และการฟื้นฟูกิจการ

เครื่องบินของลุฟท์ฮันซ่าที่จอดอยู่ที่ท่าอากาศยานเบอร์ลินบรันเดินบวร์คในช่วงวิกฤตโควิด-19

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2020 ลุฟท์ฮันซ่ายกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด 95 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากการห้ามเดินทางเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายการบินขาดทุน 1 ล้านยูโรต่อชั่วโมงภายในเดือนเมษายน 2020 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ผู้ถือหุ้นของ Deutsche Lufthsa AG ยอมรับเงินช่วยเหลือ 9,000,000,000 ยูโรจากกระทรวงกิจการเศรษฐกิจและพลังงานแห่งสหพันธรัฐ

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 ลุฟต์ฮันซายืนยันว่าฝูงบินแอร์บัส เอ380 ทั้งหมดจะถูกปลดประจำการ ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2020[18] ก่อนเปลี่ยนแปลงแผนการปลดในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022 โดยมีแผนที่จะส่งคืนเครื่องบินจำนวน 5 ลำจากที่เก็บภายในปี ค.ศ. 2023 นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการนำเครื่องบิน เอ380 ที่เหลือทั้งหมดแปดลำให้กลับมาให้บริการภายในปีค.ศ. 2024[19]

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 สกายแทรกซ์ได้ลดลำดับสายการบินที่เดิมเป็นสายการบิน 5 ดาวลงเป็นสายการบิน 4 ดาว[20]

ในปี 2023 สายการบินเกิดปัญหาระบบขัดข้อง ทำให้ผู้โดยสารถูกทิ้งไว้ทั่วโลก หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศสัญชาติเยอรมันได้กล่าวว่าได้ทำการเปลี่ยนเส้นทางของเที่ยวบินลุฟท์ฮันซ่าออกจากแฟรงก์เฟิร์ต ปัญหาดังกล่าวคาดว่าเกิดจากเกิดการตัดสายเคเบิลจากงานก่อสร้างภายในเมือง[21][22]

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2023 เครือลุฟท์ฮัน่าได้รายงานข้อตกลงกับกระทรวงการคลังของอิตาลีในการเข้าถือหุ้น 41% ในสายการบินอิตาแอร์เวย์ โดยข้อตกลงนี้อนุญาตให้ลุฟต์ฮันซ่าเข้าถือหุ้นเพิ่มได้ในอนาคต[23]

กิจการองค์กร

สำนักงานใหญ่ของลุฟท์ฮันซ่าในโคโลญ

สำนักงานใหญ่

สำนักงานใหญ่ของลุฟท์ฮันซ่าตั้งอยู่ในโคโลญจน์ ในปีค.ศ. 1986 ได้มีผู้ก่อการร้ายฝ่ายซ้ายได้วางระเบิดอาคาร โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ[24][25] ในปีค.ศ. 2006 ผู้สร้างได้วางศิลาฤกษ์ก้อนแรกของสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของลุฟท์ฮันซ่าในเมืองโคโลญจน์ ภายในสิ้นปีค.ศ. 2007 ลุฟท์ฮันซ่าวางแผนที่จะย้ายพนักงาน 800 คนไปยังอาคารใหม่[26] อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปีค.ศ. 2013 ลุฟต์ฮันซาได้เปิดเผยแผนการที่จะย้ายสำนักงานใหญ่จากโคโลญไปยังแฟรงก์เฟิร์ตภายในปี ค.ศ. 2017[27]

แผนกต่างๆ ของลุฟท์ฮันซ่าไม่ได้อยู่ที่สำนักงานใหญ่ในโคโลญ แต่จะตั้งอยู่ในศูนย์การบินลุฟท์ฮันซ่าที่ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ตแทน[28][29]

บริษัทลูก

ขนาดฝูงบินโดยสารของลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ป (รวมบริษัทลูกยกเว้นสายการบินขนส่งสินค้าที่ถือหุ้นทั้งหมด)

ลุฟท์ฮันซ่ามีบริษัทลูก ดังนี้:[30]

สายการบินลูก

สายการบินลูกในอดีต
  • บริติชมิดแลนด์อินเตอร์เนชันแนล - (2009–2011; ถือหุ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1999) สายการบินลูกสัญชติอังกฤษ ขายให้กับอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์กรุ๊ปและผนวกกิจการเข้ากับบริติชแอร์เวย์ในปีค.ศ. 2012
  • ค็อนดอร์ฟลูคดีนส์ - (1959–2004; ถือหุ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1955 จนถึง ค.ศ. 2006) สายการบินเช่าเหมาลำสัญชาติเยอรมัน หุ้นถูกซื้อโดยทอมัสคุกเอจีและกลายเป็นบริษัทลูกของกลุ่มทอมัสคุกในเวลาต่อมา ก่อนที่บริษัทแม่จะล้มละลายและแยกตัวออกมา
  • เยอรมันคาร์โก้ - (1977-1993) - สายการบินขนส่งสินค้า ได้มีการจัดระเบียบองค์กรและเปลี่ยนชื่อเป็นลุฟท์ฮันซ่าคาร์โก้
  • ลุฟท์ฟาร์ทเกเซลชาฟ์ท วอล์เตอร์ - สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติเยอรมัน ถูกรวมกิจการเข้ากับยูโรวิงส์ในปีค.ศ. 2011 ขายให้กับไซต์แฟรกในปีค.ศ. 2018
  • ลุฟท์ฮันซ่า อิตาเลีย - (2009-2011) สายการบินลูกสัญชาติอิตาลีของลุท์ฮันซ่า ใช้รหัส ICAO และ IATA เดียวกับสายการบินแม่
  • ซันเอกซ์เพรส ด็อยท์เชอลันด์ - (2011–2020) สายการบินลูกสัญชาติเยอรมันของซันเอกซ์เพรส

บริษัทลูกอื่นๆ

โรงเก็บเครื่องบินของลุฟท์ฮันซ่าเทคนิคที่แฟรงก์เฟิร์ต

อัตลักษณ์องค์กร

โลโก้

ลักษณะของโลโก้ลุฟท์ฮันซ่าจะเป็นรูปนกกระเรียนขณะบิน โดยถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1918 โดยออตโต เฟิร์ล โลโก้นี้เป็นส่วนหนึ่งของลวดลายเครื่องบินของ Deutsche Luft-Reederei (ตัวย่อ DLR) สายการบินเยอรมันแห่งแรก ซึ่งเริ่มให้บริการทางอากาศเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1919 ในปีค.ศ. 1926 สายการบินด็อยท์เชอ ลุฟท์ ฮันซาได้นำสัญลักษณ์นี้มาใช้ และลุฟท์ฮันซ่าก็ได้นำโลโก้นี้ไปใช้ในปีค.ศ.1963

นักออกแบบชาวเยอรมัน Otl Aicher ได้สร้างโลโก้ลวดลายสำหรับสายการบินในปีค.ศ. 1967 คือโลโก้นกกระเรียนแสดงในวงกลม

ลวดลายอากาศยาน

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ลุฟท์ฮันซ่ายังคงใช้สีน้ำเงินและสีเหลืองเป็นสีหลักและโลโก้นกกระเรียน ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา ลุฟท์ฮันซ่าใช้แบบอักษรเฮลเวติกาบนชื่อของสายการบิน ลวดลายของปี 1970 มีจุดเด่นที่ครึ่งบนของลำตัวที่ทาด้วยสีขาวล้วนที่ด้านบน และลำตัวด้านล่าง (ครึ่งล่าง รวมถึงเครื่องยนต์) เป็นอะลูมิเนียมสีเทา/เงิน ด้านล่างแถบหน้าต่างสีน้ำเงินและจมูกที่ทาสีดำ โลโก้เครนถูกทาสีฟ้าบนเครื่องยนต์ ที่ครึ่งล่างของลำตัวด้านล่างหน้าต่างห้องนักบิน และวงกลมสีเหลืองในแถบสีน้ำเงินที่ส่วนหาง

ในปีค.ศ. 1967 นักออกแบบชาวเยอรมัน ออตล์ ไอเชอร์ ได้ออกแบบลวดลายให้ลุฟท์ฮันซ่า โดยลวดลายนี้จะเป็นสีเหลืองบนครีบหางสีน้ำเงิน เฮลเวติกาถูกใช้เป็นแบบอักษรหลักสำหรับทั้งการตกแต่งและสิ่งพิมพ์ แถบสีน้ำเงินและโครงร่างสีทั่วไปของเครื่องบินยังคงอยู่จากการตกแต่งก่อนหน้า แนวคิดของไอเชอร์ยังคงอยู่ในลวดลายปี 1988 แต่แถบหน้าต่างถูกนำออกและทาลำตัวด้วยสีเทาด้านล่าง

ในปีค.ศ. 2018 ลุฟท์ฮันซ่าเปลี่ยนลวดลายใหม่ โดยมีโลโก้นกกระเรียนเดิม แต่พื้นหลังเป็นสีน้ำเงินเข้ม แพนหางดิ่งและลำตัวด้านหลังทาด้วยสีน้ำเงินเข้ม และโคนหางยังคงเป็นสีขาว ลำตัวเครื่องบินหลักถูกทาด้วยสีขาวทั้งหมด และมีการทาสีชื่อแบรนด์ "ลุฟท์ฮันซ่า" เหนือหน้าต่างด้วยสีน้ำเงินเข้มเช่นกัน

การสนับสนุน

ลุฟต์ฮันซาเป็นผู้สนับสนุนสโมสรไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท ในรายการบุนเดิสลีกา[32] ลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ปยังสนับสนุนมูลนิธิช่วยเหลือด้านกีฬาของเยอรมันเพื่อส่งเสริมเป้าหมายทางสังคมการเมืองและนักกีฬาที่องค์กรให้การสนับสนุน[33]

จุดหมายปลายทาง

ข้อตกลงการทำการบินร่วม

ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2023 ลุฟท์ฮันซ่าได้มีข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินดังต่อไปนี้:[34][35]

LH เป็นส่วนหนึ่งของลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ป

ฝูงบิน

ณ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2024 ลุฟท์ฮันซ่ามีเครื่องบินประจำการในฝูงบินดังนี้:[43][44][45]

ฝูงบินของลุฟท์ฮันซ่า
เครื่องบินประจำการคำสั่งซื้อผู้โดยสารหมายเหตุ
FCWYรวมอ้างอิง
แอร์บัส เอ319-1002324102138[46]
แอร์บัส เอ320-2005228140168[47]
แอร์บัส เอ320นีโอ3538[48]28152180[49]ลูกค้าเปิดตัว[50]
คำสั่งซื้อบางส่วนจะโอนย้ายให้กับสายการบินในเครือ[51]
แอร์บัส เอ321-1002026174200[52]ลูกค้าเปิดตัว[53]
แอร์บัส เอ321-2003726174200[52]
แอร์บัส เอ321นีโอ1722[48]28187215[54][55]
แอร์บัส เอ330-300104228185255[56]
แอร์บัส เอ340-300173028221279[57]ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดของรุ่น[58]
จะทดแทนด้วยแอร์บัส เอ350-900[59]
แอร์บัส เอ340-6001085628189281[60]นำกลับมาให้บริการหลังการจัดเก็บในปี 2022[61]
จะทดแทนด้วยแอร์บัส เอ350-1000[62]
แอร์บัส เอ350-9002332[48]43824201267เริ่มส่งมอบในต้นปี 2024 ด้วยห้องโดยสารลุฟท์ฮันซ่าอัลเลกริส
4821224293[63][64]ส่งมอบตั้งแต่ปี 2016[65][66]
3026262318[63]
30309339เช่าสองลำ - ใช้ผังที่นั่งเดิมจากเซาท์แอฟริกันแอร์เวส์
เช่าสี่ลำ - ใช้ผังที่นั่งเดิมจากลาตัม บราซิล[67]
แอร์บัส เอ350-100010รอประกาศทดแทนแอร์บัส เอ340-600[64]
แอร์บัส เอ380-800887852371509[68]สี่ลำนำกลับมาให้บริการหลังการจัดเก็บ[69][70][71]
อีกสี่ลำจะนำกลับมาให้บริการในปี 2024.
โบอิง 747-40086732272371[72]จะทดแทนด้วยโบอิง 777-9[73]
โบอิง 747-8I1988032244364[74]ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดของรุ่น[75]
รวม D-ABYP โบอิง 747 ลำที่ 1,500[76]
โบอิง 777-920รอประกาศเริ่มส่งมอบในปี 2025[77]
ทดแทนโบอิง 747-400 และแอร์บัส เอ380-800 หกลำ[78]
โบอิง 787-9534[79]2828231287เริ่มส่งมอบในปี 2024 ด้วยห้องโดยสารลุฟท์ฮันซ่าอัลเลกริส
2621247294[64]เริ่มส่งมอบตั้งแต่สิงหาคม ค.ศ. 2022[80][81][82]
ห้าคำสั่งซื้อโอนย้ายมาจากไห่หนานแอร์ไลน์โดยใช้ผังที่นั่งเดิม[83]
ห้าลำจะโอนย้ายไปยังออสเตรียนแอร์ไลน์[84]
รวม295156

ลุฟท์ฮันซ่ามีอายุฝูงบินเฉลี่ย 13.7 ปี

บริการ

โปรแกรมสะสมไมล์

โปรแกรมสะสมไมล์ Miles & More ของลุฟท์ฮันซ่าจะใช้ร่วมกันระหว่างสายการบินในยุโรปหลายแห่ง ได้แก่ สายการบินในเครือทั้งหมดของลุฟท์ฮันซ่า (ไม่รวมกิจการร่วมค้าของซันเอกซ์เพรส), ค็อนดอร์ (เดิมเป็นของลุฟท์ฮันซ่า), โครเอเชียแอร์ไลน์, ล็อตโปแลนด์, และลักซ์แอร์ (เดิมเป็นส่วนหนึ่งของลุฟท์ฮันซ่า)[85] สมาชิก Miles & More จะได้รับไมล์สะสมจากเที่ยวบินของลุฟท์ฮันซ่าและเที่ยวบินพันธมิตรของสตาร์อัลไลแอนซ์ ตลอดจนผ่านบัตรเครดิตของลุฟท์ฮันซ่าและการซื้อสินค้าผ่านร้านค้าของสายการบิน สถานะภายใน Miles & More จะพิจารณาจากไมล์ที่บินระหว่างหนึ่งปีปฏิทินกับพันธมิตรเฉพาะราย ระดับสมาชิกประกอบด้วย: สมาชิก Miles & More (ไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำ), ผู้เดินทางบ่อย (ระดับเงิน 35,000 ไมล์ (56,000 กม.) หรือ 30 เที่ยวบินส่วนบุคคล), วุฒิสมาชิก (ระดับทอง 100,000 ไมล์ (160,000 กม.)), และ HON Circle (สีดำ 600,000 ไมล์ (970,000 กม.) เกณฑ์ในสองปีปฏิทิน) ระดับสถานะของ Miles & More ทั้งหมดที่สูงกว่าสมาชิก Miles & More มอบสิทธิ์การเข้าใช้ห้องรับรองและไมล์โบนัส โดยระดับที่สูงขึ้นจะมอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากกว่า[86]

ห้องโดยสาร

ชั้นหนึ่ง

ที่นั่งชั้นหนึ่งบนโบอิง 747-8I

ที่นั่งชั้นหนึ่งของลุฟท์ฮันซ่าจะมีให้บริการบนเครื่องบินระยะไกลส่วนใหญ่ (แอร์บัส เอ340-600 ทุกลำ ส่วนหน้าของชั้นบนของแอร์บัส เอ380 ทุกลำ และส่วนจมูกของดาดฟ้าหลักของโบอิง 747-8 ทุกลำ) แต่ละที่นั่งปรับเป็นเตียงขนาด 2 เมตร (6 ฟุต 7 นิ้ว) พร้อมปลั๊กไฟสำหรับอุปกรณ์ตั้งโต๊ะ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิง มีบริการอาหารตามความต้องการ ลุฟท์ฮันซามีเคาน์เตอร์เช็คอินสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งโดยเฉพาะในสนามบินส่วนใหญ่ และมีห้องรับรองชั้นหนึ่งโดยเฉพาะในแฟรงก์เฟิร์ตและมิวนิก รวมถึงอาคารผู้โดยสารชั้นหนึ่งโดยเฉพาะในแฟรงก์เฟิร์ต ผู้โดยสารขาเข้ามีตัวเลือกในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารขาเข้าชั้นหนึ่งของลุฟท์ฮันซ่า

ชั้นธุรกิจ

ที่นั่งชั้นธุรกิจบนโบอิง 747-8I

ที่นั่งชั้นธุรกิจจะมีให้ให้บริการบนเครื่องบินระยะไกลทุกลำ ที่นั่งแปลงเป็นเตียงนอนราบขนาด 2 เมตร (6 ฟุต 7 นิ้ว) และมีปลั๊กไฟสำหรับแล็ปท็อปและเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิง[87] ลุฟท์ฮันซ่ามีเคาน์เตอร์เช็คอินสำหรับชั้นธุรกิจโดยเฉพาะที่สนามบินทุกแห่ง รวมถึงห้องรับรองสำหรับชั้นธุรกิจโดยเฉพาะที่สนามบินส่วนใหญ่ หรือห้องรับรองพิเศษที่สนามบินอื่นๆ รวมถึงห้องรับรองต้อนรับของลุฟท์ฮันซ่าเมื่อเดินทางมาถึงแฟรงก์เฟิร์ต ในปีค.ศ. 2014 ชั้นธุรกิจของเครื่องบินลำตัวกว้างทุกลำมีที่นั่งแบบปรับนอนราบได้[88]

ชั้นประหยัดพรีเมียม

เปิดตัวใน ค.ศ. 2014 ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมของลุฟท์ฮันซาจะมีให้บริการบนเครื่องบินระยะไกลทุกลำ โดยเริ่มด้วยโบอิง 747-8I การออกแบบที่นั่งจะคล้ายกับห้องโดยสารชั้นประหยัดพรีเมียมของแอร์แคนาดา หรือชั้นโดยสารเวิลด์เทรเวลเลอร์พลัส ของบริติชแอร์เวย์ ชั้นประหยัดพรีเมียมมีระยะห่าง 38 นิ้ว (970 มม.) และความกว้างมากกว่าชั้นประหยัดสูงสุด 3 นิ้ว (76 มม.) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องบิน เบาะนั่งยังมีจอความบันเทิงด้านหลังเบาะนั่งส่วนตัวขนาด 11 หรือ 12 นิ้ว (280 หรือ 300 มม.) และที่วางแขนแยกที่นั่งขนาดใหญ่ขึ้น

ชั้นประหยัด

ที่นั่งชั้นประหยัดบนโบอิง 747-8I

ที่นั่งชั้นประหยัดของลุฟท์ฮันซ่าที่ให้บริการบนเครื่องบินระยะไกล จะมีระยะห่างระหว่างที่นั่ง 31 นิ้ว (790 มม.) ยกเว้นบนแอร์บัส เอ380 ที่จะมีระยะห่างระหว่างที่นั่ง 33 นิ้ว (840 มม.) ผู้โดยสารจะได้รับอาหารและเครื่องดื่มฟรี ทุกที่นั่งจะมีหน้าจอระบบความบันเทิง (Audio-Video-On-Demand; AVOD) ให้บริการ

ห้องรับรองและอาคารผู้โดยสาร

อาคารผู้โดยสารสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต

ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการห้องรับรองสี่ประเภทภายในเครือข่าย: ชั้นหนึ่ง, วุฒิสมาชิก, ธุรกิจ และห้องรับรองต้อนรับ ห้องรับรองผู้โดยสารขาออกแต่ละแห่งสามารถเข้าถึงได้ทั้งผ่านชั้นโดยสาร หรือสถานะ Miles and More/Star Alliance; ห้องรับรองถูกจำกัดไว้สำหรับผู้โดยสารระดับพรีเมียมขาเข้าของลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ปและยูไนเต็ดแอร์ไลน์[89]

ลุฟท์ฮันซ่ายังให้บริการอาคารผู้โดยสารชั้นหนึ่งโดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต อาคารผู้โดยสารแห่งนี้มีจำกัดเฉพาะผู้โดยสารชั้นหนึ่ง, ชั้นหนึ่งของลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ป และสมาชิก HON Circle ในอาคารผู้โดยสารจะมีร้านอาหารบริการเต็มรูปแบบ บาร์เต็มรูปแบบ ห้องรับรองซิการ์ ห้องพักผ่อน และสำนักงาน รวมทั้งห้องอาบน้ำ ผู้เข้าพักจะถูกขับตรงไปยังเที่ยวบินที่ออกเดินทางโดยรถเมอร์เซเดส เอส-คลาสหรือ วี-คลาส หรือรถพอร์เชอ คาเยนน์ หรือ พานาเมร่า

บริการรถขนส่ง

ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการรถบัสจากท่าอากาศยานนูเรมเบิร์กไปยังท่าอากาศยานมิวนิก ซึ่งได้กลับมาให้บริการในค.ศ. 2021 เพื่อแทนที่เที่ยวบินระยะสั้นระหว่างทั้งสองเมือง[90] ลุฟท์ฮันซาเคยให้บริการรถโดยสารจากนูเรมเบิร์กไปยังมิวนิกในปลายทศวรรษ 1990[91]

หมายเหตุ

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง